ทำเอาแฟนๆตะลึง เมื่อแบรนด์นาฬิกาสุดล้ำ MB&F นำจิตวิญญาณของสัตว์เลี้ยงสายพันธุ์แกร่งมาไว้ในผลงานเรือนล่าสุด HM No.10 Bulldog ทำไมต้องเป็น Bulldog ที่จริง MB&F ก็เคยดึงแรงบันดาลใจจากสัตว์ต่างๆ มารังสรรค์ผลงานหลายรุ่น เช่น กบตาโต HM No. 3 Frog หรือแมงกะพรุนเรืองแสง HM No.7 Aquapod มาถึงเรือนล่าสุด HM No. 10 Bulldog ที่ Maximilian Büsser (แมกซ์) ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ได้แรงบันดาลใจสร้างผลงานชิ้นนี้ ขณะเดินทางอยู่ในประเทศญี่ปุ่น และดีไซน์นาฬิกาที่แวบขึ้นมาในมโนภาพอย่างชัดเจน และชวนให้นึกถึงเพื่อนสี่ขาของมนุษย์ที่พร้อมโถมตัวเข้าใส่ ด้วยความดีใจสุดขีด ทุกครั้งที่เจ้าของกลับถึงบ้าน นี่คือความภักดีของสัตว์ที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนรักของมนุษย์ และเป็นที่มาของชื่อ Horological Machine N°10 ‘Bulldog’ นั่นเอง

HM10 Bulldog ยังสะท้อนความมุ่งมั่นเพื่อสร้างสรรค์ด้วยแนวคิดนอกกรอบและเหนือกฎเกณฑ์ ตามเอกลักษณ์ของแบรนด์ เพราะหากจะเปรียบไปแล้ว ชื่อรุ่นนาฬิกา ก็พ้องกันดีกับคำพังเพยเก่าแก่ของฝรั่ง ที่เปรียบเทียบคนหัวดื้อหัวรั้น ว่าเป็นพวก “หัวแข็งเหมือนหมาบูลด็อก” อันเป็นชื่อสายพันธุ์สุนัขอังกฤษที่เก่าแก่ ด้วยรูปร่างที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ โครงสร้างช่วงอกหนา หุ่นล่ำสัน แข็งแรง ขากรรไกรขนาดใหญ่ และใบหน้าที่ย่นยู่ บวกกับลักษณะนิสัยที่น่าเกรงขามสำหรับคนทั่วไป ทำให้ บูลด็อก ไม่ใช่สุนัขที่ใครๆ ก็ชื่นชอบ ถูกใจ ได้ง่ายๆ ทว่า บูลด็อก ก็มีเสน่ห์เฉพาะตัว เป็นสายพันธุ์ฉลาด ซื่อสัตย์ และภักดีกับเจ้าของ ไม่ต่างกับนาฬิกาของ MB&F ที่มีบุคลิกลักษณะเฉพาะไม่เหมือนใคร หาใครถูกใจยาก แต่เมื่อถูกใจ ก็ยากจะเปลี่ยนใจเช่นกัน แมกซ์ ถึงกับออกปากด้วยตนเองว่า “บูลด็อก ที่คุณเห็นอยู่ตอนนี้ ถอดแบบออกมาจากภาพที่แวบขึ้นมาในความคิดของผมทุกประการ  ไม่มีอะไรตกหล่นเลย และเป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นภาพนาฬิกาที่อยู่ในความคิด ปรากฏออกมาเป็นผลงานจริงอย่างที่คาดหวัง อย่างที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้”

ความน่าสนใจของ HM No. 10 อยู่ที่การรวมลักษณะเด่นของนาฬิกา MB&F รุ่นยอดนิยมก่อนหน้ามาผสมผสาน โดยยังคงเอกลักษณ์ความเป็นบูลด็อกไว้ชัดเจน ทั้ง HM No.3 Frog และ HM No.6 ในดีไซน์วงหน้าปัดย่อยทรงโดม วัสดุแผ่นบางเฉียบราวกระดาษในการแสดงชั่วโมงและนาทีแยกอิสระ ผนึกด้วยกระจกแซฟไฟร์ทรงโดมคู่ ดูคล้ายดวงตากลมโตของบูลด็อกที่หมุนแสดงค่าเวลาให้ใครก็ตามที่กล้าสบตาด้วย ส่วนมาตรวัดพลังงานสำรองดีไซน์ขากรรไกรแข็งแรงที่เปิด-ปิด ตามพลังลานที่เหลืออยู่ ถ้าปากของมันปิดสนิท ก็หมายความว่าเจ้า ‘Bulldog’ หมดลานและพร้อมงีบพัก แต่ถ้ามองเห็นเขี้ยวคมในปากแล้วละก็ เตรียมตัวได้เลยเพราะเจ้าบูลด็อกพร้อมที่จะฟัดด้วยพลังงานสำรองสูงถึง 45 ชั่วโมง หน้าปัดแสดงพลังงานสำรองขนาดใหญ่ ออกแบบอย่างชาญฉลาด ให้ใช้พลังงานน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทำให้กลไกไขลานชุดนี้สามารถแยกส่งแรงบิดจากชุดสปริงลานไปยังชุดจักรกลอกแขวนลอยในดีไซน์ของ Legacy Machine ได้โดยตรง เพื่อขับเข็มชั่วโมงและนาทีทรงโค้ง

ที่สำคัญ การแสดงค่าเวลาและพลังงานสำรอง ถูกจัดวางในตำแหน่งที่เฉพาะผู้ที่สวมใส่เท่านั้นสามารถมองเห็นได้ สะท้อนความชอบที่เป็นปัจเจกชนอย่างแท้จริง ส่วนขาแข็งแรง ล่ำสัน ทั้ง 4 ข้างของบูลด็อกที่ได้รับการดีไซน์เป็นข้อต่อตัวเรือนบึกบึนมั่นคง แต่ยืดหยุ่นสูง โอบรับกระชับข้อมือในทุกขนาดและสวมใส่สบาย ดีไซน์ปุ่มขึ้นลานและตั้งเวลาเป็นรูปปลอกคอประดับหมุดหนาม ตามสไตล์ปลอกคอสุนัขพันธุ์ดุ พร้อมคำแนะนำสำหรับผู้ที่จะเป็นเจ้าของ HM10 ‘Bulldog’ ที่สลักไว้บนตัวเรือน เช่นเดียวกับข้อความเตือนที่บนปลอกคอสุนัขที่ซ่าและดุดันเป็นพิเศษ ที่ว่า สุนัขที่ดูว่าดุร้าย แท้จริงมันคือเพื่อนและผู้รับใช้ที่ภักดีที่สุดของมนุษย์ ดังนั้น พึงจดจำให้ดีว่า แม้สุนัขพันธุ์ดุจะน่ากลัวเพียงใด ตัวเจ้าของต่างหาก ที่น่าเกรงขามและต้องพึงระวังอย่างแท้จริง

Horological Machine N°10 ‘Bulldog’เปิดตัวใน 2 รุ่นคือรุ่น Ti กับตัวเรือนไทเทเนียม ที่มาพร้อมวงหน้าปัดของ “ดวงตา” สีฟ้า และรุ่น RT ในตัวเรือนทองคำเรดโกลด์ 18k กับไทเทเนียม ที่มาพร้อม “ดวงตา” แสดงเวลาสีดำ ทั้งสองรุ่นมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 54.0 มิลลิเมตร ประกอบสายหนังวัวตัดเย็บด้วยมือสีน้ำตาลหรือสีน้ำเงิน

สำหรับแวดวงคนรักนาฬิกาหรูแล้ว Horological Machine N°10 ‘Bulldog’ เป็นผลงานที่ MB&F สร้างสรรค์มาเพื่อเป็นเพื่อนแท้สายพันธุ์แกร่งของคนรักนาฬิกาที่มีความเชื่อมั่น มีสไตล์เป็นตัวของตัวเอง และไม่ยอมถูกจำกัดอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ กระแสหลัก หรือคำว่าธรรมดาอย่างแน่นอน ไม่ต่างกับเจ้าของสุนัขพันธุ์ดุอย่างบูลด็อก ที่เลือกเพื่อนคู่ใจที่ดูน่าเกรงขามสำหรับคนทั่วไป และไม่ใช่สุนัขธรรมดาที่ใครๆ จะเลือกครอบครองได้ง่ายๆ HM N°10 ‘Bulldog’ ก็คือ เพื่อนใหม่ที่ภักดีและทำหน้าที่จักรกลรักษาเวลาให้คุณได้อย่างยอดเยี่ยม บนรูปลักษณ์ที่ไม่ตามกระแสหลัก ทว่าทำให้ใครๆ ต้องเหลียวมองได้ไม่ยากเลย

อัพเดททุกข่าวสารและความล้ำหน้า จากโลกเรือนเวลาแห่งอนาคตของ MB&F ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย Facebook และ Instagram